... ดวงนี้อยู่ในกฏเกณฑ์ข้อที่ ๑ คือดาวเจ้าเรือนลัคนาเป็นมหาอุจจ์ ทั้งยังอยู่ในตำแหน่งโยคหลังให้คุณอีกด้วย จึงมีวาสนาสูงส่ง มีเงินหลายล้าน เป็นเจ้าของโรงแรมชั้น ๑ ใหญ่โต เคยเป็นนักการเมืองอันทรงเกียรติ และมีชื่อเสียงรู้จักดีในวงสังคม

เมืองไทย ให้สังเกตุว่ามีดาวกุมลัคนามาก แล้วเป็นดาวล้วนเด่นด้วยกันทั้งสิ้น ...

... ผมขออธิบายแยกแยะให้ละเอียดขึ้นดังต่อไปนี้คือ ...

... ดาว ๒ ได้ตำแหน่งอุจจ์ [ ใหญ่โต , มีหน้ามีตา ] ... และยังได้ตำแหน่งปทุมเกณฑ์ [ มีชื่อเสียง ] ...

... จากดาว ๒ ตนุลัคน์ไปอยู่ราศีพฤษภ อ่านว่า ... ตนุ [ เจ้าชาตา ] + ลาภะ [ โชคดี ] +ภพพันธุ [ ตำแหน่ง ] ... ได้ตำแหน่ง อุจจ์ [ มีเกียรติ ] และตำแหน่ง ปทุมเกณฑ์ [ มีชื่อเสียง ] ... ดาว ๖ ลาภะ [ รายได้ ] + พันธุ [ ปึกแผ่น ] ... ไปอยู่ที่ราศีสิงห์

ภพ กฎุมภะ [ ทรัพย์ ] ... ดาว ๑ เจ้าเรือนไปอยู่ที่ราศีกรกฏ ตำแหน่ง มหาจักร [ ผาดโผน ,พลิกผัน ] ภพตนุ [ เจ้าชาตา ] ... ดาว ๒ ก็ไปอยู่ภพลาภะอีก สลับเปลี่ยนวนเวียนกันอยู่อย่างนี้ไม่วันสิ้นสุด ตามสูตรของ ท่าน อ.สถิตย์ สถิตยืนยง ที่เรียกว่า

" มหาเกษตร " ...

... ส่วนการที่ เริ่มสลับจาก ตนุ ไปอยู่ลาภะ ... จากลาภะ ไปอยู่กฎุมภะ ... จากกฎุมภะ ไปอยู่ ตนุ ... จากตนุวนไปอยู่ลาภะ

อีก ทางท่าน อ.พันเอก เอื้อน พ.อ.มณเฑียรทอง ... ท่านว่าได้เกณฑ์ ธนโยค คือดวงเป็นเศรษฐี ...

... จากจุดทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้น หมายถึง ... เจ้าชาตาเป็นคนโชคดี มีฐานะเป็นปึกแผ่นร่ำรวย มีตำแหน่งอันทรงเกียรติ เป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่ในวงสังคมของเมืองไทย ...

... ตามหัวข้อเรื่องกล่าวว่า " เศรษฐี ม่าย " ...เรื่องเป็นเศรษฐีนั้นดูออกแล้ว เรามาดูเรื่อง " ม่าย " กันดีกว่า ...

... ดูไปที่ดาว ๗ ปัตนิตัวแรกไปอยู่ราศีสิงห์ ถ้านับที่ราศีมังกรเป็นตนุ ดาว ๗ มาอยู่ราศีสิงห็ก็จะเป็นภพมรณะ [ จากกัน ] ...

ในทันที ... และยังไปกุมดาว ๖ คู่ศัตรู อ่านว่า ๗ + ๖ ...แปลว่า ชีวิตคู่เป็นเรื่องของการขัดแย้งและก็ต้องเลิกราไปในที่สุด

... ถ้าดูจากมังกรเป็นภพตนุของปัตนิ จะเห็นว่าที่ราศีกุมภ์ภพกฎุมภะ มีดาว ๐ อาเพท สถิตเป็นเกษตรอยู่ แต่จากราศีกุมภ์นี้เป็นภพมรณะของลัคนาเดิม เอามาบวกกัน ... อ่านว่า กฎุมภะ [ เงิน ] + มรณะ [ เสียหาย ] แปลว่า คู่ผลาญทรัพย์ ...

... ดูจากดาว ๒ ตนุลัคน์ตัวที่ ๑ ตั้งเป็นลัคนาที่ ๒ ... ราศีพฤศจิกภพปัตนิมี ๘ อุจจ์ [ ทำหน้าใหญ่ ] ... เป็นดาวลอยสถิตอยู่ ... เราลองตามดาว ๓ ปัตนิที่ ๒ ที่ไปอยู่ราศีมิถุนเป็นมรณะกับตัวเอง เป็นกฎุมภะของลัคนาที่ ๒ และเป็นวินาสน์ของลัคนาที่ ๑ ... แสดงว่า ๓ ปัตนิตัวที่ ๒ สร้างความเสียหาย - มรณะ ... ในเรื่องเงิน - กฎุมภะ ... ให้เกิดความเดือดร้อน - วินาสน์ ...

ให้กับคู่ครองก็คือเจ้าชาตานั่นเอง ...

... เรามาดูตนุลัคน์ตัวที่ ๓ [ สุดท้าย ] ... คือดาว ๖ ที่ราศีสิงห์ ตั้งเป็นลัคนาที่ ๓ จะเห็นว่า ภพปัตนิที่ราศีกุมภ์ มีดาว ๐ อาเพท สถิตเป็นเกษตรอยู่ และเป็นกัมมะ [ กรรม ] ของลัคนาที่ ๒ และยังเป็นมรณะ [ การจาก ] ... ของลัคนาที่ ๑ อีกด้วย ...

... แปลว่า ...

... เมื่อเจ้าขาตามีคู่แล้วก็ต้องเลิกรากัน เพราะคู่ทุกคนมักจะสร้างปัญหาความเดือดร้อนทางการเงินมาให้อยู่เสมอ ...

... ตนุลัคน์คือตัววาสนา ถ้าตนุลัคน์ดีเด่น ก็มักจะได้เด่นดัง ... ถ้าตนุลัคน์ไปตกอริหรือมีดาวอริมากุม ก็มักจะมี ปัญหาชีวิต

จะมีอุปสรรคและศัตรูมาก ถ้าดาวอริเป็นอุจจ์ก็ลำบากหน่อย หากดาวอริเป็น ประเป็นนิจ ก็ค่อยยังชั่วหน่อย ... การที่ดาวเป็น

อุจจ์ เป็นเกษตร เหล่านี้ต้องดูให้ถ่องแท้ว่า เป็นดาวเจ้าเรือนอะไร? ... แล้วเราจึงค่อยทำนายออกไป จึงจะเข้าเป้าหมายที่แท้จริง ...