ท่าน อ.ทองเจือ อ่างแก้ว เกิด ๑๗ ก.ค.พ.ศ. ๒๔๔๗ เวลา ๑๓.๒๘ น.
...โยคเกณฑ์ ...
๑. ดวงได้จตุเกณฑ์ มีดาวพระเคราะห์เด่นอยู่ในมุมจตุโกณ คือเสาร์เกษตร พฤหัสบดีราชาโชค
และ อาทิตย์เป็นมหาจักร ...
๒. ดาวเสาร์ เป็นเกษตรอยู่ในภพเกณฑ์ คือภพที่ ๔ ได้เกณฑ์ ปัญจมหาบุรุษโยค ...
... วิจารณ์ ...
๑. ท่านผู้นี้เป็นอาจารย์สำคัญในวงการโหร และมีความเชี่ยวชาญในการคำนวณปฏิทินโหรแบบ
สุริยาตร ซึ่งบรรดาโหรคงใช้เป็นคู่มือในการผูกดวงชาตาอยู่ในขณะนี้ ...
... ดาวศุกร์ตนุลัคน์กุมพุธอันเป็นดาวสติปัญญา และกุมดาวอาทิตย์ซึ่งช่วยเร่งให้สติปัญญาสว่าง
ไสว ...จึงมีหัวในการคำนวณเป็นพิเศษ ...
๒. ดาวพฤหัสบดีเล็งลัคนาราศีตุลย์ ตามสถิติที่ปรากฏพบว่า เป็นดวงครูบาอาจารย์ ซึ่งมีผู้คน
ยกย่อง ... นับถือมาก ...
๓. ดาวพฤหัสบดี อยู่ในภพกัมมะของดาวศุกร์ตนุลัคน์ก็ชี้ให้เห็นชัดว่า ท่านเจ้าชาตารักในวิชาความรู้
และใช้วิชาความรู้นั้นให้เป็นประโยชน์แก่ชนทั่วไป ...
๔. ดาวมฤตยูนำหน้าลัคนา มักสนใจค้นคว้า แสวงหาวิธีการใหม่ๆ มาใช้ในการคำนวณปฏิทินให้
รวดเร็วได้ผลดีผิดกับสมัยโบราณ นับว่าท่านเป็นผู้มีหัวก้าวหน้าผู้หนึ่ง ดาวมฤตยูยังมีอิทธิพลในด้าน
การเสี่ยง โชคด้วย ท่านจึงมักจะเป็นผู้กล้าได้กล้าเสีย ยอมเสี่ยงที่จะกระทำการใดๆ โดยไม่ลังเลใจ ...
๕. ดาวพลูโตโหราศาสตร์โยคหลังดาวศุกร์ตนุลัคน์ ทำให้ท่านจะต้องมีชีวิตพัวพันอยู่กับวงการ
โหราศาสตร์ตลอดไป แต่เพราะพลูโตเป็นดาวมรณะ จึงมักไม่นิยมทำนาย แต่มุ่งไปในทางสร้าง
ปฏิทินให้เป็นประโยชน์แก่วงการโหร ...
... ที่ว่าต้องอยู่ในวงการโหรตลอดไป เพราะเมื่อตรวจจากลัคนา ดาวตนุลัคน์ไปอยู่ราศีกรกฏ ดาวจันทร์ตนุ
ของตนุลัคน์ [ เจ้าเรือนของตนุลัคน์ ] ไปอยู่ราศีสิงห์ ณ.จุดราศีสิงห์นี้จะพบว่า ...
ดาวพลูโตสถิตอยู่ในเรือนกัมมะ ข้อนี้เป็นประจักษ์พยานชี้ชัดว่าเหตุไฉนจึงต้อง ใช้ชีวิตในบั้นปลาย
อยู่กับวงการโหรมาจนบัดนี้ ...
๖. ดาวพุธ หนังสือ ลอยกลางฟ้าเหนือศรีษะขณะเกิด ทำให้นักคำนวณปฏิทินผู้ยิ่งยงท่านนี้ต้อง
เขียนตำรับตำราไว้มาก และปฏิทินที่คำนวณขึ้น ก็ได้ตีพิมพ์ออกสู่ีสาธารณะเป็นประจำทุกปีไม่เคยขาด ...
... ต่อจากนี้ผมจะอธิบายเสริมให้ชัดเจนขึ้น ...
...เริ่มตั้งต้นจาก ดาว ๕เจ้าเรือนภพสหัชชะ [ การศึกษา ] + ภพอริ [ ความบากบั่น ] ไปอยู่ราศีเมษ
ภพปัตนิ [คนอื่น ] ดาว ๓ เจ้าเรือนภพปัตนิไปอยู่ราศีมิถุนภพศุภะ [ ความสำเร็จ,ที่พึ่ง ]
ดาว ๔ เจ้าเรือนไปอยู่ที่ราศีกรกฏ ภพกัมมะ [ งาน,ภาระ ] ดาว ๒ เจ้าเรือนไปอยู่ที่ราศีสิงห์ภพ
ลาภะ [ มุ่งหวัง,ต้องการ ] ...
ดาว ๑ เจ้าเรือนกลับไปอยู่ราศีกรกฏภพ กัมมะ สมาสัปต์ [สลับเรือน ] กันไปเรื่อยๆไม่มีวันหยุด ...
... แปลว่า ...
... เจ้าชาตาเป็นคนมีความพากเพียรที่จะคิดค้นอย่างไม่กลัวความยากลำบาก ในการที่จะให้
ผู้อื่นประสพกับความสำเร็จในเรื่องกิจกรรมงานในด้านวิชาการหรือเอกสารต่างๆโดยเฉพาะวิชาโหราศาสตร์ ...ซึ่งงานที่กระทำก็จะเป็นงานที่มั่นคงถาวรไปได้โดยตลอดไม่จบสิ้น ...
... ที่เน้นวิชาโหราศาสตร์ก็เพราะว่า ...
ดาวมฤตยู [ โหราศาสตร์ ] เป็นศูนย์พาหะ [ ตัวนำทาง ] สถิตอยู่ที่ราศีพฤศจิกภพกฎุมภะ
[ ได้มา ] เป็นตัวนำทางชีวิตเจ้าชาตา ...
ที่ว่างานด้านวิชาการเพราะว่า ดาว ๑ กุม๔ เป็นคู่วิชาการในด้านเอกสารมันสมองและตัวเลข ...
... การผู้คนยกย่องเคารพนับถือ เพราะ ...
... ดาว ๒ ตรีโกณกับดาว ๕ คือร่วมอยู่ในธาตุไฟด้วยกัน ๒ + ๕ = คนนับถือ
... ๘ หมายถึงคนจำนวนมาก
... ๒ หมายถึง ประชาชน
... ๕ หมายถึง ครูบาอาจารย์
... ๙ หมายถึง สูงสุด
... ในพื้นดวงดาว ๒ กุมกับ ๘ และ ๙ และตรีโกณกับ ดาว ๕ ... ดังนั้นจึงแปลได้ว่า ...
... เป็น อ.โหรที่ผู้คนให้ความเคารพนับถืออยู่เป็นจำนวนมาก ...
... ที่ว่าเจ้าชาตารักวิชาโหราศาสตร์ก็เพราะ ...
... นับจากดาว ๖ ตนุลัคน์ตัวที่ ๑ ตั้งเป็นลัคนาที่ ๒ ดาวมฤตยู [ โหราศาสตร์ ]
... อยู่ที่ภพ ปุตตะ [ ความรัก ] ... แปลว่า เจ้าชาตารักวิชาโหราศาสตร์ ...
... นับจากดาว ๒ ตนุลัคน์ตัวที่ ๒ ตั้งเป็นลัคนาที่ ๓ ดาวมฤตยูอยู่ที่ภพ พันธุ [ ความผูกพันธิ์ ]
... แปลว่าเจ้าชาตาผูกพันธิ์อย่างลึกซึ้งกับวิชาโหราศาสตร์ ...
... ที่ชอบค้นคว้า แสวงหาวิธีการต่างๆมาใช้ในการคำนวณ เพราะ ...
... ดาวมฤตยู [ โหราศาสตร์ , ค้นคว้า ] อยู่ร่วมแฝงเรือนเกษตรกับ ดาว ๕ [ วิชาความรู้ ]
... คือที่เรือนเกษตรของดาว ๓ [ กิจกรรม ] และดาว ๓ ก็ไปอยู่ที่ราศีมิถุนภพ ศุภะ [ฝักไฝ่ ]
... ดาว ๔ เจ้าเรือนก็ไปอยู่ที่ราศีกรกฏ ภพกัมมะ [ งาน ] ซะอีก แล้วก็สลับเรือน กัมมะกับ
... ลาภะ [ความมุ่งหวัง ] ไม่ไปไหนอีกเหมือนเดิม...
... แปลได้ว่า...เจ้าชาตาเป็นคนที่ค้นคว้าหาสิ่งแปลกใหม่ พาเพิ่ม เสริม ปรุงแต่งอยู่ตลอดเวลา
... เพื่อที่จะให้การคำนวณจากปฏิทินของท่านรุดหน้าไปอย่างไม่สิ้นสุด ...