
ดาวจันทร์ ราชินีแห่งจักรวาล
ดาวจันทร์กุมลัคน์ในราศีต่างๆ | |
ดาว ๒ เสื่อม : รูปร่างขี้เหร่ หรือทุพพลภาพ ……………………… | อธิบายดาวเคราะห์เสื่อม ๑. เป็นกาลกิณี ๒. ไม่เป็นกาลกิณี แต่เกาะภินทฤกษ์ ๓. ไม่เป็นกาลกิณี แต่สถิตทุสถานะภพ ๔. ไม่เป็นกาลกิณี แต่สถิตในราศีเสื่อม เป็น นิจ,ประ ๕. ถูกโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีเมษ …………… | ดาว ๒ ในภพนี้จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนรักสวยรักงาม ชีวิตมากด้วยความสุขสบาย มีคู่ครองที่ดี มีผู้ใหญ่ให้ความอุปการะช่วยเหลือ จะเป็นผู้มีหลักฐานบ้านช่อง แต่มักใช้เงินเก่ง อ.ทวีทรัพย์ : มีตำแหน่งเป็น มหาจักร จะเป็นคนฉลาดแยบยล ลึกซึ้ง ผิวพรรณงาม นัยน์ตาคม สวยมีเสน่ห์ดึงดูดแก่คนทั่วไป จะได้คู่ครองเป็นที่พึ่ง มีฐานะความเป็นอยู่ดี แต่ใจร้อน เอาแต่ใจตนเอง นิสัยเจ้าชู้เป็นบางครั้ง ดาวจันทร์ราศีนี้ทำการค้าจะดีมาก |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีพฤษภ | เป็นบุคคลที่มีบุคลิกลักษณะเป็นที่ต้องตาแก่บุคคลทั่วไป มีชื่อเสียงดี จะประสบความสำเร็จรุ่งเรืองในชีวิต จิตใจกล้าแข็ง มีความปรารถนาอันแรงกล้า จะได้รับผลดีจากญาติพี่น้อง อ.ทวีทรัพย์ : เป็นมหาอุจ เป็นคนรูปร่างงาม ผิวพรรณดี มีเสน่ห์ มีความสุนทรีย์ในเรื่องความรัก รอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน ฉลาด บางครั้งดุดัน ดื้อดึง ชอบเข้างานสังคมทั่วไป บางรายมากชู้หลายเมียผัว ทำมาค้าขายดี รับราชการดี |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีมิถุน | จะมีรูปร่างสวยงาม ชอบแต่งตัว จะได้คู่ครองรูปร่างงดงาม จะหลงไหลผูกพันกับเพศตรงข้ามมาก จิตใจมักกระวนกระวายและวุ่นๆอยู่กับเรื่องทรัพย์สินเงินทอง อ.ทวีทรัพย์ : ดาว ๒ อยู่ในเรือนมิตร พูดจาดี เฉลียวฉลาด เพื่อนฝูงมาก เงินทองไม่ขาดมือ มีเพื่อนฝูงสนับสนุน ใจคอมั่นคง ชอบเปลี่ยนที่อยู่โยกย้ายไปมา ผิวพรรณงาม พูดจานิ่มนวลไพเราะ เจ้าชู้ มากรัก อาชีพ เช่น งานบัญชี บริการธุรกิจ นาฎศิลป์ ถ้าเป็นนักร้องนักแสดงจะให้คุณดีมาก |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีกรกฎ | เป็นผู้มีผิวพรรณสดใส จิตใจเยือกเย็นสุขุม เก็บความรู้สึกเก่ง มีฐานะมั่นคง และจะเป็นผู้มีชื่อเสียง รักชีวิตอิสระเสรี |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีสิงห์ | จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนขี้ระแวงสงสัย เป็นคนเจ้าอารมณ์ โกรธง่าย จะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ถ้าเป็นศัตรูคู่ครองมักจะเกรงกลัว นัยน์ตามักมีตำหนิ หรือพิการ |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีกันย์ | เป็นผู้มีร่างกายงดงาม จิตใจเบิกบาน นิสัยสงบเสงี่ยม มีศิลปะทางด้านช่างฝีมือ จะได้คู่ครองที่มีรูปร่างสวยงาม ขยันขันแข็ง หาเงินเก่ง มักจะเกิดลาภผลเนืองๆ ชอบติดจ่อมั่วสุมกับเพศตรงข้าม |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีตุลย์ | เป็นผู้มีลักษณะโอ่อ่าภูมิฐาน มีสง่าราศี เป็นที่นิยมนับถือแก่ผู้ได้พบเห็น มีสติปัญญาเพียงพอที่จะสามารถนำตนเองไปสู่ฐานะเป็นผู้มีเกียรติและมีอำนาจ บังคับจิตใจและควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่ทะเยอทะยานหรือใฝ่สูงเกินฐานะตนเอง จะได้รับผลดีจากการมีคู่ครอง |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีพิจิก | เป็นผู้มีจิตใจอ่อนไหว เป็นคนที่มีแต่ความคิดหวาดระแวงอยู่ในใจ วิถีชีวิตค่อนข้างจะอาภัพ จะมีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาขัดขวางชีวิตเสมอ จะเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวและเห็นแก่ตัว ไม่มีศีลธรรม ถึงมีก็ค่อนข้างจะหย่อนยาน |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีธนู | จะเป็นคนมีอายุยืน ชอบการศึกษาหาวิชาความรู้ มีความสามารถในการจัดระดับชีวิตของตนเองว่าควรจะจัดการกับมันอย่างไร เป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา ปราศจากการเกรงอกเกรงใจผู้ใด อาชีพถาวรมั่นคง ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีมังกร | เป็นผู้มีจิตใจไม่อยู่ในความสงบ ใจคอไม่มั่นคง เป็นคนโลภมาก สร้างความดีบนความทุกข์ยากของคนอื่น เป็นคนที่มีลับลมคมใน ชอบมีเงื่อนไขและอำพราง จะไม่ยอมให้ใครจับจุดอ่อนของตนเองได้ |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีกุมภ์ | เจ้าชะตาจะมีสุขภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ จิตใจไม่ปกติ จะได้รับความยุ่งยากจากภรรยา การเงินไม่สู้จะดีนัก หาคนอุปถัมภ์ค้ำจุนได้ยาก มีสิ่งก่อกวนให้เกิดความรำคาญอยู่เรื่อยไป |
ดาว ๒ กุมลัคน์ราศีมีน | เป็นผู้ควบคุมจิตใจได้อย่างแน่วแน่และมั่นคง มีพรสวรรค์ที่สามารถเข้าถึงและรู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งลี้ลับได้ คาดคะเนเหตุการณ์ได้ไกลและแม่นยำ เป็นผู้ที่มีร่างกายมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม จะได้คู่ครองและบุตรที่ดี เป็นบุคคลเจ้าสำราญและมีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงในเรื่องชู้สาวเป็นพิเศษ |
ดาวจันทร์สถิตภพต่างๆ |
ดาว ๒ สถิตภพตนุ | |
ท่านว่า…จะเป็นคนรูปหล่อหรือสวย แต่มีจิตใจไม่มั่นคง จะได้รับความยุ่งยากเกี่ยวโรคที่เกิดขึ้นกับร่างกาย แต่จะมีความสุขสบายในสถานที่ที่อยู่กับน้ำหรืออยู่ใกล้น้ำ จะมีโอกาสท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆตั้งแต่อายุ ๑๕ ปี | |
ถ้าดาว ๒ กุมลัคน์อยู่ในราศีเมษ,พฤษภ,กรกฎ | จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านตำรับตำราโบราณ จะร่ำรวยมั่งคั่ง มีความสุข พูดเสียงเบา มีผิวบาง จะมีร่างกายที่แข็งแรง แต่จะไม่เฉลียวฉลาดนัก |
ถ้าดาว ๒ มีโยคเกณฑ์ดีกับศุภเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่งหรือหลายดวง | จะเป็นคนมีอำนาจ เฉลียวฉลาด มีสติปํญญาดี สุขภาพสมบูรณ์ มีปฎิภาณไหวพริบในการพูด มีฐานะร่ำรวย |
ถ้าดาวเจ้าเรือนลัคนาไม่เข้มแข็ง | แต่จะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ |
ถ้าดาวเจ้าเรือนมีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ | สุขภาพจะสมบูรณ์ |
ดาว ๒ มีความหมายที่ชัดเจนและแน่นอนประการหนึ่ง | คือ ความสวยความงาม หรือเป็นตัวแทนของความสวยงาม |
เมื่อดาว ๒ กุมลัคน์ ………………………………….. | สิ่งที่เห็นได้ก็คือ ดาว ๒ จะทำให้เป็นคนมีรูปร่างหล่อเหลาและสวยงาม หรือน่ารักอย่างใดอย่างหนึ่ง |
ดาว ๒ มีทั้งเพ็ญและดับ เป็นตัวแทนของจิตใจ ธรรมชาติทางอารมณ์และความรู้สึก เพราะฉะนั้น อิทธิพลของดาว ๒ จะทำให้มีความอ่อนไหวหรือมีจิตใจที่ไม่มั่นคง ดาว ๒ เป็นดาวที่เกี่ยวกับน้ำหรือมีความหมาย คือ น้ำ จึงทำให้เป็นคนชอบสถานที่ที่เป็นน้ำหรืออยู่ใกล้น้ำ | |
ดาว ๒ ที่กุมลัคน์ ถ้าไม่ใช่จันทร์ดับหรือเป็นจันทร์ที่มีแสงสว่างน้อยเพราะใกล้วันดับแล้ว | จะให้คุณแก่เจ้าชะตาทั้งสิ้น ยกเว้นแต่ดาวที่มากุมลัคน์เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพเท่านั้น ที่จะให้โทษ ในด้านอุปสรรค ปัญหา และการไม่ประสบความสำเร็จทั้งปวง แต่ก็ไม่ให้โทษใดๆไปตลอดชีวิต เพราะชีวิตคนมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุขัยและกาลเวลา อิทธิพลของดาว ๒ ดีหรือร้ายก็จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเหล่านั้น แน่นอน ดาว ๒ อาจจะไม่ให้คุณหรือให้โทษในระยะหนึ่ง แต่ก็จะต้องให้คุณในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตได้แน่นอน |
ท่านว่า…. | ดาว ๒ กุมลัคน์ในราศีเมษ (มหาจักร) ราศีพฤษภ (มหาอุจ) ราศีกรกฎ (เกษตร) ทุกตำรับกล่าวว่า จะทำให้เป็นคนมั่งคั่งร่ำรวยทั้งสิ้น |
ภพที่ ๑ หมายถึง | รูปร่างหน้าตา ท่าทางของเจ้าชะตา สีสรรค์ ส่วนสัดและทรวดทรง สุขภาพและพลังวังชา เกียรติยศ ชื่อเสียง ความร่ำรวยและความสำเร็จในชีวิต การอยู่ดีกินดี |
การดูดวงชะตา ประการแรกก็คือ จะต้องดูที่ลัคนาเกิด จันทร์กำเนิด ถ้าบังเอิญลัคน์กุมจันทร์อยู่ ก็ต้องพิจารณาอีกชั้นหนึ่งว่า…ดาว ๒ ที่ว่า..นี้เป็นดาว ๒ ข้างขึ้นหรือดาว ๒ ข้างแรม มีแสงหรือไม่มีแสงจากดวงอาทิตย์ ประการต่อมา ดูที่นวางค์ ตรียางค์ ที่ดาว ๒ เข้าไปสถิต แล้วดูฤกษ์ที่ดาว ๒ เข้าไปสถิต ถ้าดาว ๒ ตัวนี้ปลอดจากกฎเกณฑ์อัปมงคลตามตำราทุกประการแล้ว ก็สามารถตั้งหลักได้เลยว่า…ดวงชะตานั้นๆจะเป็นดวงชะตาที่จะได้รับการยกเว้นจากเวรกรรมทั้งหลายทั้งปวงได้หลายสิบ % มีเคราะห์ มีโศรก หรือเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรก็จะได้รับการคุ้มครองป้องกันจากโชคชะตา ในด้านความสำเร็จของชีวิตทุกอย่างไม่ว่า..เงิน หรืองาน หรือครอบครัว หรือความเคารพนับถือ ชื่อเสียงและฐานะทางสังคม ไม่ต้องห่วง จะสมหวังทุกประการ |
ดาว ๒ สถิตภพกฎุมพะ | |
เป็นภพที่เน้นหนักในด้านการเงิน ไม่ว่าเงินนั้นจะได้มาจากทางใด ความร่ำรวยและทรัพย์ สินทุกประเภท ที่เจ้าชะตามีอยู่ หรือจะทำมาหาได้ทุกๆประการ เพชรนิลจินดา พันธบัตร ใบหุ้น ความหมายเหล่านี้ที่โหรใช้ทำนายทายทักเจ้าชะตาที่ต้องการทราบฐานะทางการเงินของตนเองทั้งปัจจุบันและอนาคต | |
ดาว ๒ เป็นดาวที่ชี้บอกการเงินของเจ้าชะตาเป็นสำคัญ | ว่ามีสภาพเป็นอย่างไร ถ้าดาว ๒ สถิตในราศีที่ดีแล้ว การทำนายในทางดีย่อมไม่มีปัญหา นอกจากจะมีเงินหมุนเวียนดีไม่ขัดสนแล้ว ยังมีทรัพย์สินเงินทองที่เป็นสังหาริมทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้ เช่น เพชรนิลจินดา แก้วแหวนเงินทอง ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินก็มีอยู่อย่างเหลือเฟือ |
ถ้าหากดาว ๒ สถิตในตำแหน่งเสื่อม | ไม่ว่าในลักษณะใดก็ตาม รวมถึงมีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ ก็สามารถทำนายได้ว่า..ฐานะการเงินมีปัญหาไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ประการแรก คือ อาจจะหาเงินไม่พอใช้ ฝืดเคือง ถ้ามีเชิงมุม ๙๐º, ๑๘๐º ห้ามทายในทางดีเด็ดขาด จนกว่าจะมีดาวศุภเคราะห์โคจรเข้ามาสัมพันธ์ด้วย และต้องเป็นดาว ๕ เท่านั้น |
ถ้าดาว ๒ มีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ หรือสถิตในราศีที่เสื่อม | ต้องทายว่า..ไม่เพียงแต่อัตคัตขัดสนหรือหาไม่ได้เท่านั้น อาจพูดได้ว่า..ช่องทางที่จะทำเงินหรือโอกาสที่จะทำมาหากินก็แทบจะไม่มีเอาเสียเลย |
แต่ก็ไม่เสมอไป ถ้ามีดาวศุภเคราะห์ให้โยคเกณฑ์มาถึงเมื่อใด หรือดาว ๒ ในภพที่ ๒ ปลอดโปร่งจากดาวบาปเคราะห์เมื่อไร เมื่อนั้นแหละที่จะมีโอกาสหาเงินได้ หมุนเงินได้ และการเงินจะเข้าที่ ไม่เฉพาะการทำมาหากินประจำวันประจำเดือนเท่านั้น การทำธุรกิจและการทำมาค้าขายก็มีผลเช่นเดียวกัน | |
ดาว ๒ สถิตภพที่ ๒ | ทำให้การเงินของเจ้าชะตาเป็นเงินประเภทหมุนเวียนไม่คงที่ เนื่องจากดาว ๒ เป็นดาวที่โคจรไม่สม่ำเสมอ มีทั้งข้างขึ้นข้างแรม เพราะฉะนั้น ถ้าหากเป็นเรื่องของการค้า ก็ควรจะเป็นการค้าส่งหรือตัวแทน ไม่สมควรลงทุนเพื่อหวังผลระยะยาวและเป็นปึกแผ่นมั่นคง ที่เหมาะสมที่สุด คือ การค้าที่เปลี่ยนมือไปมา |
ตามความหมายเดิมของดาว ๒ ซึ่งเป็นภพที่ ๕ ของจักรวาล | เกี่ยวกับการทำมาหากินกับที่ดิน การค้าที่ดิน บ้านเรือน และเรือกสวนไร่นา |
ถ้าดาว ๒ สถิตในตำแหน่งดี | ผลดีก็เกิดขึ้นกับการทำมาหากินเกี่ยวกับที่ดิน และเรือกสวนไร่นา |
แต่ถ้าดาว ๒ เสีย | ก็จะทำให้สิ่งที่ได้มานั้นเกิดความวิบัติ |
ในดวงชาย…ถ้าดาว ๒ เด่น | หมายถึง เพศตรงข้ามที่ได้มาเป็นคู่ครอง หลังจากแต่งงานจะมีครอบครัวที่เป็นปึกแผ่น จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนที่มีฐานะ มีความมั่นคงในชีวิต |
ถ้าดาว ๒ เสีย | จะเกิดวิบัติเพราะเพศตรงข้ามเป็นมูลเหตุ |
โดยเฉพาะผู้มีลัคนาในราศีมังกร | มีดาว ๒ อยู่ภพ กฎุมพะ คือราศีกุมภ์ หลังจากสมรสแล้วชีวิตจะเป็นหลักเป็นฐานได้ |
ตำราโบราณแทบทุกตำรับ มีความเห็นตรงกันว่า | ดาว ๒ ในภพที่ ๒ จะให้คุณมาก จะมั่งมีเงินทองและความสุขสำราญทุกประการ จะเป็นคนรูปหล่อหรือสวยเป็นที่ต้องตาคนทั้งชายและหญิง จะพูดน้อย หรือจะหูเบา หรือจะมีปัญหาด้านการพูดบ้าง |
ดาวจันทร์เพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ จะให้คุณมากที่สุด แต่ต้องดูเชิงมุมของดาว ๒ กับดาว ๑ ด้วย | |
จันทร์ข้างแรมหรือจันทร์ดับ หรือวันใกล้ดับ | เป็นดาว ๒ ที่ให้โทษ แม้จะเป็นคนที่มั่งคั่งสมบูรณ์ หรือมีทรัพย์สินมรดกมากมายอย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณาว่า… น่าจะรักษาไว้ไม่อยู่ และวันหนึ่งจะสูญเสียทั้งโดยเหตุการณ์ไม่คิดฝัน หรือเพราะการกระทำของตนเอง |
ดาว ๒ ที่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ | ถ้าเข้าไปสถิตอยู่ในภพที่ ๒ แล้ว จะต้องพิจารณาในด้านร้ายหรือในด้านเสียหายเอาไว้ด้วย |
อย่างไรก็ตาม ดาว ๒ เป็นดาวที่ให้คุณและโทษมากที่สุดดวงหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์ ถ้าดาว ๒สถิตในตำแหน่งที่ดีในดวงชะตาตามกฎเกณฑ์แล้ว จะให้คุณมากไม่ว่าจะอยู่ภพไหน เพราะฉะนั้น ในภพที่ ๒ นี้ ถ้าหากมีดาว ๒ สถิตอยู่ แม้พอตกฟากออกมาก็สามารถทายได้เลยว่า…จะต้องเป็นคนร่ำรวยและมีความสุขความสำเร็จในชีวิตหรือไม่มี ถ้าดาว ๒ ไม่ถูกกุมหรือมีโยคเกณฑ์ร้ายจากดาวบาปเคราะห์แล้ว ยังบอกได้ว่า…จะได้รับการศึกษาอย่างดีและประสบความสำเร็จในการศึกษาแน่นอน เนื่องจากท่านบอกว่า…ภพที่ ๒ เป็นภพแห่งการเรียนรู้จากสัญชาติญาณหรือเกิดขึ้นเอง | |
ดาว ๒ ที่กุมลัคน์ในราศีมิถุน | โหรไทยถือว่าเป็นหินจันทร์ แต่ก็ให้คุณอย่างมากในด้านความร่ำรวย มีตำแหน่งเป็นอุจจาภิมุข เหตุที่ร่ำรวยได้ อาจจะเป็นเพราะมีแสงจากมหาอุจในราศีพฤษภ และอำนาจการเป็นเกษตรในราศีกรกฎ ถ้าจะให้แน่ใจก็ถามท่านเทวดาดูก็แล้วกัน เพราะเป็นหน้าที่ของท่านเอง แต่คุณติดต่อกับเทวดาได้หรือเปล่าล่ะ? |
ดาว ๒ สถิตภพสหัชชะ | |
ตำราไทยยกย่องให้เป็น “ราชาโชค” ถือเป็นตำแหน่งที่ดี มีความสามารถและมีอิทธิพลที่จะป้องกันความเลวร้ายของบาปเคราะห์ที่จะเข้ามาให้โทษได้ โดยทำให้โทษทุกข์แบ่งเบาไปได้กึ่งหนึ่ง | ตำราเก่า..มักจะเน้นไปที่เรื่องของพี่น้อง เพราะชีวิตในสมัยโบราณเป็นชีวิตที่แคบ มีความผูกพันกับครอบครัวสูง ทำมาหากินแบบดั้งเดิม โหรเก่าจึงดูเฉพาะแต่เรื่องญาติพี่น้อง ครอบครัว |
แต่ความเป็นจริงแล้ว ภพที่ ๓ มีความหมายกว้างขวางออกไปมาก | แม้แต่เรื่องของสติปัญญาความสามารถ และความทรงจำ การเดินทางท่องเที่ยว การติดต่อสื่อสาร การตกลงธุรกิจต่างๆ ความตั้งใจในการศึกษา และโอกาสช่องทางที่จะทำให้ได้รับการศึกษา |
ดาว ๒ ถือว่า..เป็นดวงดาวแห่งชีวิต | และมีความหมายถึงชีวิต เหมือนดาวศุภเคราะห์อื่นๆ มนุษย์จะอยู่ดีได้หรือไม่ดี อิทธิพลของดาว ๒ เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกับศุภเคราะห์อื่นๆ ไม่ว่า…จะอยู่ภพไหนก็จะให้คุณภพนั้นทั้งสิ้น ปัญหาของศุภเคราะห์ทุกดวงมีอยู่ประการเดียวเท่านั้น คือ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์แล้ว เป็นอันว่า…มีปัญหาแน่นอน |
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ว่า..จะเป็นภพที่ ๓ หรือภพใดก็ตาม ถ้าดาว ๒ บังเอิญสถิตในราศีที่ดี ฤกษ์ที่ดี ในนวางค์ตรียางค์ที่ดี หรือได้ตำแหน่งมหาอุจ,เกษตร ดาว ๒ จะให้คุณสูง ตามความหมายของภพที่ดาว ๒ สถิต | |
ดาว ๒ ในภพที่ ๓ | น่าจะนำมาใช้ทำนายถึงสติปัญญาความทรงจำ ความสามารถ ความมั่นคงและความอาจหาญ รวมถึงการศึกษาที่จะให้ผลดีอย่างมาก การเดินทาง การติดต่อสื่อสาร เป็นงานที่เจ้าชะตาจะต้องเกี่ยวข้องมากที่สุด |
เฉพาะอย่างยิ่ง ภพที่ ๓ เป็นภพที่เรียกว่า..”สหายตุภาวะ” | คือ การมีชีวิตที่ได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากผู้หญิงที่เป็นความหมายของดาว ๒ เจ้าชะตาจะได้รับอย่างมากมายตลอดชีวิต |
ภพที่ ๓ ทำมุมเล็งกับภพที่ ๙ | เป็นภพที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน เป็นภพที่ส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จและประสบความรุ่งเรืองในชีวิต ดาว ๒ จึงไม่ได้ให้ผลดีแต่เฉพาะภพที่ ๓ เท่านั้น แต่สามารถบอกได้ถึงความเข้มแข็งของภพที่ ๙ ได้อีกด้วย |
ดาว ๒ สถิตภพพันธุ | |
ดาว ๒ ในภพนี้มักจะเน้นคำว่า | แม่บ้านหรือที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อมในที่อยู่อาศัย ทรัพย์สินของบรรพบุรุษ ยานพาหนะ |
ดาว ๒ ที่ไม่เข้มแข็ง หรือดาว ๒ ข้างแรมแก่ๆ หรือดาว ๒ กำลังใกล้จะดับ หรือดาว ๒ ดับในภพที่ ๔ | จะเป็นดาว ๒ที่ขัดขวางความสุขความสำเร็จ ตามความหมายทุกอย่างของภพที่ ๔ |
แต่ถ้าดาว ๒ ในภพที่ ๔ เป็นดาวที่เข้มแข็ง ไม่ว่า..จะตามกฎเกณฑ์ใดก็ตาม | เจ้าชะตาจะมีโชคลาภ และประสบความสำเร็จทุกอย่างในทุกๆความหมายของภพที่ ๔ |
ดาว ๒ ในภพนี้ ……………….. | มักจะทำให้ชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งที่อยู่อาศัยและหน้าที่การงาน เจ้าชะตาที่มีดาว ๒ อยู่ในภพนี้ ไม่เหมาะกับงานประเภทซ้ำซากจำเจ แต่เหมาะสำหรับงานที่มีการเคลื่อนที่และเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปอยู่เรื่อยๆจึงจะเหมาะกับนิสัย |
ว่ากันว่า..ดาว ๒ ในภพที่ ๔ | ในชีวิตบั้นปลายมักจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องหวังอะไรมากในเรื่องความมั่นคงถาวร เว้นแต่ว่า..ภพที่ ๔ ตรงกับราศีกรกฎ หรือสถิรราศี อันเป็นราศีคงที่ทั้งหมดไม่ว่า..จะเป็นราศีพฤษภ,สิงห์,พิจิก,กุมภ์ และต้องไม่มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์อื่นๆในดวงเดิม หรือมีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ในดวงจร จึงหวังได้ว่า…ดาว ๒ ในภพที่ ๔ จะให้ความมั่นคงได้ |
ขอเน้นเป็นครั้งที่ ๑๐๐๐ ผลการทำนายในด้านดีของดาว ๒ ในภพต่างๆจะเป็นไปได้ และถูกต้อง ขึ้นอยู่กับปัญหาเดียวเท่านั้น คือ ความสัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ในดวงเดิม และโยคเกณฑ์ร้ายกับดาวเคราะห์ดวงอื่นๆในดวงจร ถ้าดาว ๒ สถิตในตำแหน่งที่ดี ถูกต้องตามกฎเกณฑ์แล้ว แม้แต่ดวงชะตาบางส่วนที่ให้โทษแก่เจ้าชะตา ดาว ๒ ที่ดีและถูกต้องตามกฎเกณฑ์ที่กล่าวมาแล้ว ยังสามารถจะบรรเทาหรือให้ความคุ้มครองได้ด้วย | |
กฎเกณฑ์ที่ถูกต้องของดาวเคราะห์ คือ ๑ สถิตวิสุทธิฤกษ์ ต้องเป็นฤกษ์ที่บริสุทธ์ ๒ สถิตนวางค์ที่ดี ตรียางค์ที่ดี ไม่ถูกลูกพิษ ๓ สถิตในราศีที่ดี ได้ตำแหน่งเกษตร,มหาอุจ ๔ ณ.เวลาเกิดพิกัดดาวอยู่ในตำแหน่งที่ตัวมันเองเข้มแข็งที่สุด ๕ ดวงเดิมไม่มีความสัมพันธ์ร้ายจากบาปเคราะห์ ๖ ดาวจรไม่มีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ ๗ ต้องเป็นดาว ๒ ที่โคจรเข้าใกล้ดาว ๑ ไม่ถึง ๘º เพราะถ้าน้อยกว่า ๘º ถือว่า..เป็นดาว ๒ กำลังใกล้จะดับ หรือเป็นวันแรมแก่จัด ดาว ๒ ในระยะนี้จะให้โทษแก่เจ้าชะตาเป็นอย่างมาก และหลังจากดาว ๒ ดับและจากดาว ๑ ไปแล้ว จะต้องพ้นจาก ๑๒º ไปก่อน ถึงจะถือว่า..พ้นจุดดับของดาว ๒ หรือเป็นระยะที่ดาว ๒ จะให้คุณได้ | |
เช่นเดียวกัน การพูดถึงดาว ๒ ในภพที่ ๔ จะต้องพิจารณาภพที่ ๘ และภพที่ ๑๒ ด้วย เพราะเป็นตรีโกณ ทำมุม ๑๒๐º ที่ให้คุณต่อกัน ภพที่ ๔ บอกถึงการมีทรัพย์สิน ที่ดิน ที่อยู่อาศัย ฐานะของครอบครัว (ในขณะที่)ภพที่ ๘ เป็นภพที่เกี่ยวกับการทำมาหากิน หรือการหารายได้อันเป็นผลมาจากฐานะที่มีอยู่ในภพที่ ๔ (เช่นเดียวกับ)ภพที่ ๑๒ เป็นภพของการหาเงินมาจ่ายให้แก่ที่อยู่อาศัย และการลงทุนในภพที่ ๘ ไม่ว่า..จะเป็นดอกเบี้ย หรือเงินกู้ยืมใดๆก็ตาม จะมีใช้มีคืนเจ้าหนี้หรือไม่ และจะถึงเวลาต้องใช้ต้องจ่ายเมื่อใด | |
และที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง คือ ต้องดูว่าดาวเจ้าเรือนของภพที่ดาว ๒ สถิต โคจรไปอยู่ที่ไหน ในเรือนมิตรหรือศัตรู ได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ตัวไหนประการใด เจ้าเรือนภพที่ ๔ ที่ว่านี้ เป็นดาวอีกดวงหนึ่งที่จะช่วยให้การทำนายหรือการพิจารณาใดๆ มีความถูกต้องมากขึ้น |
ดาว ๒ สถิตภพปุตตะ | |
นอกจากการมีลูกมีหลานและความสมประสงค์ในเรื่องทางเพศแล้ว | ภพที่ ๕ ถ้ามีดาว ๒ ที่มีความบริสุทธ์ผุดผ่อง ปราศจากโยคเกณฑ์ร้ายจากดาวบาปเคราะห์ หรือมีระยะเชิงมุมร้ายกับดาวเคราะห์อื่นๆแล้ว (ดาวศุภเคราะห์ที่มีเชิงมุม ๙๐ ํ,๑๘๐ ํ จัดเป็นโยคเกณฑ์ร้าย เพียงแต่ให้โทษแบบนิ่มนวล ค่อยเป็นค่อยไป หรือเพียงแต่ทำให้เกิดความเคร่งเครียดเท่านั้นเอง) ให้แน่ใจได้เลยว่า..เจ้าชะตาจะประสบความสำเร็จในธุรกิจการงานและชื่อเสียงทุกอย่าง ไม่สน “บุษกรจันทร์” |
ท่านกล่าวว่า…ดาว ๒ ในภพที่ ๕ | จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนที่ชอบทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์ ชอบลงทุนทุกอย่างที่เป็นการเสี่ยงโชค แม้แต่ด้านการพนัน จนกระทั่งถึงการทำธุรกิจใหญ่ๆ เป็นคนร่าเริงและชอบแสวงหาความสุขความสำราญทุกชนิด ชอบคลุกคลีตีโมงกับผู้หญิงและเด็ก จะมีลูกผู้หญิงที่น่ารัก |
ดาว ๒ ในภพที่ ๕ | หมายถึง การเสี่ยงโชค การลงทุน การพนัน ความรัก การสมสู่ได้เสียกันของหญิงชายที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การมีลูก การศึกษาระดับสูง ความเฉลียวฉลาด ความร่ำรวย |
ดาว ๒ ในวันแรมแก่จัดหรือสถิตในตำแหน่งที่ไม่ดี และมีบาปเคราะห์เกี่ยวข้องอยู่ด้วย | ย่อมส่งผลร้ายให้กับดวงชะตา |
ดังที่กล่าวมาตลอดเวลาว่า….ภพต่างๆในดวงชะตาหนึ่งๆนั้น มีความเกี่ยวข้องกัน หักล้าง ส่งเสริมและสนับสนุนซึ่งกันและกันอยู่ เพื่อบอกความเป็นไปในแต่ละชะตาของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งภพที่เป็นตรีโกณต่อกัน หรือทำมุม ๖๐º, ๑๒๐º | |
ภพที่ ๕ มีความสัมพันธ์เป็นตรีโกณกับภพที่ ๑ และภพที่ ๙ | เพราะฉะนั้น ถ้าหากในดวงชะตาใดมีภพที่ ๑ หรือลัคนาให้คุณ เช่นเดียวกับภพที่ ๙ ก็ย่อมจะส่งผลดีมาถึงภพที่ ๕ ด้วย *ในทำนองเดียวกัน ถ้าหากภพที่ ๕ เป็นภพที่มีดาวดีสถิตอยู่ ก็จะทำให้ภพที่ ๕ เป็นภพที่มีอิทธิพลมาก และอิทธิพลของภพที่ ๕ ก็จะส่งผลไปถึงภพที่ ๑ และภพที่ ๙ ด้วย |
เมื่อภพทั้ง ๓ ภพมีความสัมพันธ์กัน และบังเอิญว่า…ทั้ง ๓ ภพ เป็นภพที่อยู่ในราศีที่เข้มแข็ง ในเรือนธาตุที่ให้คุณ มีดาวเคราะห์ที่ดีสถิตอยู่ ก็จะส่งผลให้ดวงชะตาเข้มแข็งยิ่งขึ้น และประสบความสำเร็จทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ต้องการในชีวิต | |
เมื่อดวงชะตาใดมีดาว ๒ สถิตในภพที่ ๕ | ไม่ต้องสงสัยเลยว่า…ภพที่ ๕ จะไม่ส่งเสริมให้เจ้าชะตาประสบสิ่งที่ดีงามในชีวิต และความสำเร็จทุกอย่างตามปรารถนา หรือตามความหมายของภพทั้ง ๓ |
ไม่เพียงแต่จะใช้ทำนายพื้นดวงชะตาเดิมเท่านั้น ดาว ๒ ในภพที่ ๕ จะนำไปใช้ทำนายประจำวัน ประจำเดือน ประจำปี ก็สามารถจะทำได้ เพราะดวงชะตาจะเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันประการใดนั้น ขึ้นอยู่กับการโคจรของดาว ๒ ในวันใดที่ดาว ๒ โคจรเข้าภพที่ ๕ ปราศจากโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์แล้ว ไม่ว่า…จะเป็นการเสี่ยงโชค การลงทุน หรือการริเริ่มกิจการงานใดๆ หรือการติดต่อใดๆ จะได้รับความร่วมมือ และจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี | |
ถ้าหากในดวงเดิมมีดาว ๒ สถิตอยู่ | วันใดที่ดาวศุภเคราะห์ไม่ว่า จะเป็นดาว ๔ , ๕ , ๖ โคจรเข้าไปทับ จะให้ผลดีในการเสี่ยงโชค การลงทุน และการเริ่มต้นงานการเพื่อความเจริญก้าวหน้าทุกประการ |
ดาว ๒ สถิตภพอริ | |
ถ้าเจ้าของดวงเป็นผู้หญิง และมีดาว ๒ สถิตอยู่ในภพที่ ๖ | จะต้องระมัดระวังสุขภาพอนามัยให้มาก เพราะสุขภาพจะไม่สมบูรณ์ เช่น มีดาว ๑ ส่งกระแสสัมพันธ์ร้ายแก่ดาว ๒ จะทำให้สุขภาพอ่อนแอ ไม่แข็งแรง และถ้ามีดาว ๓ และดาว ๗ อยู่ร่วมกับดาว ๒ หรือดาว ๖ ในภพนี้แล้ว สุขภาพของผู้หญิงจะมีความเดือดร้อนอยู่เรื่อยไป กฎนี้ใช้ได้ แม้ดาว ๒ ไม่ได้อยู่ในภพที่ ๖ ก็ตาม |
ภพที่ ๖ เดิมมาจากภาษาอินเดีย | คือ คำว่า อริ ที่หมายถึงศัตรู ศัตรูในวิชาโหราศาสตร์ไทย ท่านจัดให้มีอยู่เป็น ๒ ระดับ คือ ศัตรูเล็ก หมายถึง ความเจ็บไข้ได้ป่วย หนี้สิน หรือบริวารลูกจ้างที่จะต้องใช้สอย อันได้แก่ศัตรูในภพที่ ๖ หรือภพอริ (สำหรับศัตรูใหญ่นั้นท่านถือว่า…ศัตรูอยู่ในภพวินาศ) |
เจ้าชะตาที่มีดาว ๒ อยู่ในภพที่ ๖ นั้น | ตามปกติจะต้องอยู่กับประชาชน และรับใช้ประชาชนส่วนใหญ่อยู่เสมอ จะทำให้ต้องเสียเงินเสียทองมาก |
ถ้าดาว ๒ ในภพนี้ มีโยคเกณฑ์ร้ายกับดาวบาปเคราะห์ หรือมีโยคเกณฑ์ร้ายกับดาวดวงอื่นๆ ในดวงจร | จะมีความยุ่งยากและปัญหาเกี่ยวกับลูกจ้าง ถ้าหากดวงเดิมมีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์อยู่ก่อนแล้ว ไม่เหมาะสมที่จะทำงานเกี่ยวกับงานที่ต้องใช้ลูกจ้างและคนงานที่มีจำนวนมากๆอย่างเด็ดขาด |
ดาว ๒ ในภพนี้ โหรไทยจัดให้เป็นดาวจันทร์ “สิทธิโชค” | หมายถึง สามารถคุ้มครองเวรภัยจากดาวบาปเคราะห์ที่เข้าทับลัคน์ทับจันทร์ได้อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง |
ดาว ๒ ในภพที่ ๖ …………………… | จะทำให้เป็นคนยากจน และมีร่างกายที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ เมื่ออายุได้ ๓๖ ปี จะไปมีความสัมพันธ์ลับๆกับแม่ม่าย |
ถ้าดาว ๒ มีความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ | จะทำให้มุ่งมั่นไปในการกระทำที่เป็นบาปและชั่วร้าย |
ถ้าดาว ๒ มีความสัมพันธ์หรือกุมกันกับดาว ๘ หรือดาว ๙ | จะไม่ร่ำรวย จะมีศัตรูที่เต็มไปด้วยอันตราย จะมีการทะเลาะวิวาท จะไม่มีพี่ชายหรือน้องชาย จะมีโรคเกี่ยวกับท้อง สถานที่เกี่ยวกับน้ำไม่ว่าจะเป็นสระเป็นบ่อ หรือสถานที่ใดๆที่เกี่ยวกับน้ำ จะทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต |
ถ้าหากดาว ๒ ถูกกุมด้วยบาปเคราะห์ | จะมีสุขภาพไม่ดี ยิ่งถ้าเป็นดาว ๒ ที่ไม่มีแสงด้วยแล้ว หรือ จันทร์ดับ ผลร้ายจะเกิดขึ้นแน่นอน |
ถ้าดาว ๒ มีความสัมพันธ์กับศุภเคราะห์ | จะเป็นคนมีร่างกายแข็งแรง และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน |
ดาว ๒ สถิตภพปัตนิ | |
ตำรายืนยันว่า | จะต้องมีคู่ครองหลายคน คู่ครองจะเป็นคนมีจิตใจโลเล เพราะเหตุที่ดาว ๒ เป็นดาวที่มีความเปลี่ยนแปลงง่าย |
ถ้าดาว ๒ ได้ตำแหน่งเกษตร,มหาอุจ | จะทำให้คู่ครองได้คู่ครองเป็นคนมีฐานะดี มีหลักฐานมั่นคง |
ตรงกันข้าม ถ้าดาว ๒ สถิตในราศีที่เป็นนิจ,ประ | แม้ว่า..เจ้าชะตาจะมีฐานะดีก็ตาม แต่มักจะนิยมการประพฤติผิด มีจิตใจแปรปรวน ไม่มีความแน่นอนในตัว |
ถ้ามีดาวศุภเคราะห์ เช่น ดาว ๕ , ๖ , ๑ เข้ามามีกระแสสัมพันธ์ในระยะเชิงมุมที่ดี | จะกลายเป็นบุญบารมีที่จะช่วยส่งเสริมให้มีคู่ครองมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดี และมั่นคงยิ่งขึ้น |
แต่ถ้าบาปเคราะห์เข้าร่วม หรือมีความสัมพันธ์ด้วย | จะทำให้แตกแยกกับคู่ครอง เพราะระยะเชิงมุมจะทำให้คู่ครองเป็นคนมีจิตใจโลเลไม่แน่นอน ทกให้ผู้อื่นชักจูงได้ง่าย |
ตำราเก่ากล่าวว่า | เป็นคนพูดเสียงเบา และมีภรรยาเมื่ออายุ ๓๒ ปี จะเป็นโรคเกี่ยวกับตา จะหลงใหลใฝ่ฝันถึงแต่เรื่องผู้หญิง การติดต่อสัมพันธ์กับผู้หญิงจะทำให้มีโรคภัยไข้เจ็บ อาจถึงผ่าตัด ทำราชการจะได้ดี และได้รับการสนับสนุน |
ถ้าเจ้าเรือนปัตนิเข้มแข็ง | จะมีเมีย ๒ คน |
ถ้าดาว ๒ อ่อนแอ | (พระจันทร์ข้างแรมหรือใกล้จะถึงวันดับ) จะทำให้ต้องเสียภรรยา |
ถ้าดาว ๒ เต็มดวง หรือสถิตในราศีของตัวเอง | จะมีเมียเพียงคนเดียว และจะมีความสุขสำราญ ชีวิตจะสะดวกสบายเป็นอันดี |
ความจริง เรื่องของความรักและคู่ครอง ไม่ใช่จะสามารถทายให้ถูกต้องได้เพราะการมีดาวในภพที่ ๗ หรือเพราะดาว ๒ อยู่ในภพที่ ๗ การที่ใครจะมีคู่ครอง ดวงชะตาจะบอกชัดเจนทีเดียวว่า…การแต่งงาน การมีผัวมีเมีย การมีคู่ครอง หรือมีครอบครัวนั้น เป็นการชดใช้กรรมเก่าอย่างหนึ่ง กรรมดีหรือกรรมร้ายจะไม่ดูกันที่ภพที่ ๗ หรือดาว ๒ ในภพที่ ๗ เพียวอย่างเดียว แต่จะดูกันว่าในปีที่เจ้าชะตาตัดสินใจมีคู่ครองนั้น ดวงชะตาจะดีหรือร้าย | |
ถ้าหากการตัดสินใจมีคู่ครองเกิดขึ้นในระยะที่ชะตาร้าย | ก็หมายถึงว่า….นั่นคือเจ้าชะตาจะแต่งงานหรือมีครอบครัวไปเพื่อรับเคราะห์กรรมและชดใช้บาป |
แต่ถ้าหากในปีที่ตัดสินใจแต่งงานนั้น เป็นระยะปีเดือนที่ดี มีดาวคุ้มครองดวงชะตา | การแต่งงานหรือการมีคู่ครองนั้น ก็จะเป็นการแต่งงานเพื่อความสุขความเจริญ และการก่อร่างสร้างตัวที่เป็นมรรคเป็นผล |
การดูจังหวะการตัดสินใจนี้ จะต้องดูพื้นดวงชะตาเดิม | การแต่งงานที่ตัดสินใจทำไปนั้นจะให้ผลดีหรือผลร้าย จากนั้นก็ต้องดูดวงดาวที่มีอิทธิพลต่อความรัก และการแต่งงาน |
ในภพที่ ๗ ของดวงชะตา การมีดาว ๒ สถิตในดวงชะตาเกิด | ถ้าหากเป็นดาว ๒ ที่เข้มแข็ง สถิตในฤกษ์,นวางค์,ตรียางค์ที่ดี และไม่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ จะต้องพิจารณาไว้ก่อนว่า…เป็นดวงที่จะมีคู่ครองที่ดี และมีโชคลาภในชีวิตอย่างไม่มีปัญหา |
ความหมายในปัจจุบันของภพที่ ๗ | หมายถึง เกียรติยศชื่อเสียง ความสำเร็จในทางธุรกิจ การมีความสัมพันธ์กับต่างประเทศหรือคนต่างประเทศ หุ้นส่วนในธุรกิจการค้า บุคคลที่คบค้าสมาคมหรือไปมาหาสู่กัน ดาวในภพที่ ๗ จะบอกได้ว่า..เป็นใคร จะให้ประโยชน์หรือทำลาย |
ดาว ๒ สถิตในภพนี้ | ย่อมจะทำนายทายทักออกมาได้อย่างชัดเจนว่า…เจ้าชะตาจะต้องเป็นคนที่ได้รับการต้อนรับจากประชาชน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไป จะประสบความสำเร็จในด้านเกียรติยศชื่อเสียงและการทำมาหากิน ทั้งนอกและในประเทศ คนที่คบค้าสมาคมหรือเพื่อนสนิทมิตรสหายที่คบหาสมาคมอยู่ จะไม่มีใครกล้าทำลาย หรือไม่มีใครจะทำลายอะไรได้ นอกจากจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น |
ดาว ๒ ในภพนี้ ในปีใดที่มีดาว ๕ โคจรเข้าไปทับ | (เมื่อถึงวัยและอายุ) เจ้าชะตาจะได้คู่ครอง ถ้าเป็นผู้ชาย ตำราท่านว่า…จะได้เสียกันโดยไม่ต้องเสียค่าอะไรทั้งสิ้น |
ดาว ๒ สถิตภพมรณะ | |
ท่านว่า | จะได้รับมรดก หรือได้รับลาภผลจากคู่ครอง ได้รับส่วนแบ่งจาการร่วมหุ้นส่วนในการร่วมลงทุน หรือการทำมาหากินร่วมกับผู้อื่น นั่นหมายถึง ดาว ๒ จะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ดี และมีความสัมพันธ์กับดาวอื่น ทั้งบาปเคราะห์และศุภเคราะห์ |
แต่ถ้าหากดาว ๒ เสีย | เพราะการมีความสัมพันธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออยู่ในตำแหน่งที่เสีย เป็นอันว่า..การพยากรณ์ต้องเป็นตรงกันข้าม คือ ทายไปในทางร้ายหรือมีปัญหาและอุปสรรค |
ดาว ๒ ในภพนี้ไม่ค่อยให้ผลดีแก่ดวงชะตาใดได้ดีเหมือนดาว ๒ในภพอื่น | อย่างน้อยปัญหาและอุปสรรคในชีวิตคงต้องมีอยู่ตามความหมายของภพ หรืออาจจะกล่าวได้ว่า….จะไม่ทำให้ชีวิตราบรื่นง่ายดายเสมอไป แต่การจะให้โทษมากน้อยเพียงใด ประการแรก ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดาว ๒ เองที่สถิตนั้นเป็นราศีที่ให้คุณให้โทษประการใด ประการที่สอง คือ ดาว ๒ ที่ว่านี้ได้รับความสัมพันธ์ที่ดีจากดาวศุภเคราะห์หรือไม่ |
ถ้าหากในดวงเดิมมีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์ และดวงจรมีโยคเกณฑ์ที่ดีจากศุภเคราะห์ | การให้โทษของดาว ๒ ในประการต่างๆก็จะลดน้อยลง หรือแทบไม่มีเลย |
อย่างไรก็ตาม ภพที่ ๘ เป็นภพที่มีความสัมพันธ์กับภพที่ ๑๒ | ที่หมายถึงการใช้จ่ายและการชำระหนี้สิน เป็นภพที่มีความสัมพันธ์กับภพที่ ๒ และยังโยคไปถึงภพที่ ๔ เพราะฉะนั้น การทำนายภพที่ ๘ ต้องคำนึงถึงภพเหล่านี้ด้วย และต้องดูว่า…ในภพต่างๆเหล่านี้ มีดาวศุภเคราะห์โยคเกณฑ์ถึงหรือไม่ ถ้าดาว ๒ ในภพที่ ๘ เป็นดาว ๒ ที่เข้มแข็ง และยังได้โยคเกณฑ์ที่ดีจากดาวจากภพที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ ตั้งข้องสังเกตุไว้ก่อนว่า…ดาว ๒ จะให้คุณหรือจะส่งผลดีให้มากกว่าให้โทษ |
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาว ๒ ในภพที่ ๘ | จะมีประโยชน์อย่างมากในการทำนายเกี่ยวกับฐานะการเงินของคนที่จะมาเป็นคู่ครอง และการเงินของหุ้นส่วนทางธุกิจ เงินปันผลจากการลงทุน หรือจากการประกัยภัย หรือบำเหน็ดบำนาญ ทุกอย่างที่เป็นเงินรายได้ที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น ถ้าดาว ๒ เป็นจันทร์ที่บริสุทธ์ในดวงจร มีความเข้มแข็ง ได้โยคเกณฑ์ดีจากดาวอื่นๆ โดยเฉพาะศุภเคราะห์ และไม่มีบาปเคราะห์เข้ามาเกาะกุมแล้ว เจ้าชะตาจะได้รับความช่วยเหลือจากดาว ๒ เป็นอย่างมาก |
การทายสุขภาพไม่สามารถกำหนดได้จากดาว ๒ ในภพนี้ |
ดาว ๒ สถิตภพศุภะ | |
ถ้าดาว ๒ อยู่ในตำแหน่งดี และได้รับความสัมพันธ์ที่ดีจากศุภเคราะห์ | เจ้าชะตาจะมีการศึกษาสูง การเดินทางไปต่างประเทศ การมีตำแหน่งการงานในต่างประเทศ และมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ในอนาคต |
ถ้าหากดาว ๒ ถูกเบียนจากดาวบาปเคราะห์ หรือมีโยคเกณฑ์ที่ไม่ดีในดวงจร | จะทำให้เป็นคนชอบเพ้อฝันในเรื่องเล็กน้อยหาแก่นสารสาระไม่ได้ ถ้ามีความสัมพันธ์ไม่ดีในดวงเดิม เจ้าชะตาจะได้รับความเสียใจจากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย และจะไม่มีโชคลาภ |
ถ้าดาว ๒ ในภพที่ ๙ ไม่ได้รับการบ่อนเบียนจากบาปเคราะห์ หรือเป็นดาว ๒ ที่มีความเข้มแข็ง สถิตในตำแหน่งที่ดีแล้ว | จะทำให้เป็นคนคงแก่เรียน ใจบุญใจกุศล จะเป็นคนที่ชอบสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณะกุศลแก่คนทั่วไป หรืออาจเป็นคนที่ชอบอยู่ใกล้น้ำ ชอบทำที่พักร่มเงาให้แก่สัตว์และคนได้หลบแดดหลบฝนได้ จะมีโชคเกี่ยวกับลูก ลูกจะเป็นคนร่ำรวยมั่งคั่ง พ่อของเจ้าชะตาก็จะเป็นคนที่มีอายุยืน |
และเสมอไปดาวที่สถิตในภพต่างๆทุกดวง ต้องไม่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ เพราะถ้าเป็น หมายถึง การสูญเสียแน่นอน พึงระวังให้มาก เพราะจะสร้างความยุ่งยากให้กับเรือนนั้นๆ |
ดาว ๒ สถิตภพกัมมะ | |
เป็นภพสูงสุดของดวงชะตาและให้คุณสูง ดาว ๒ สถิตภพนี้และถูกต้องตามกฎเกณฑ์ ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากให้คุณอย่างเดียว | |
โหรไทยว่า..ดาว ๒ ในภพที่ ๑๐ | เหมาะสมกับอาชีพที่มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย เช่น การค้าขายที่วิ่งขึ้นวิ่งล่อง การขนส่งทางน้ำ ทางเรือ หรือค้าขายสินค้าประเภทสาธารณูปโภค หรือการงานที่มีการติดต่อกับประชาชนหมู่มาก |
ถ้าดาว ๒ อยู่ในตำแหน่งที่ดี ไม่มีโยคเกณฑ์ร้ายจากบาปเคราะห์ | ถือว่า..เชื่อขนมกินได้เลย ยิ่งจะทำให้เจ้าชะตามีความรุ่งเรืองและมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก |
ถ้าดาว ๒ มีความสัมพันธ์ร้าย อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดี | จะทำให้การเปลี่ยนแปลงต่างๆเป็นไปด้วยความตกต่ำและผิดหวัง หรือได้รับความเสียหายอย่างไม่คาดคิด เพราะฉะนั้นจึงต้องรอจังหวะเวลาที่ดวงพ้นจากอิทธิพลร้ายเหล่านั้น (อย่าลืมว่า..ผลร้ายของดวงชะตาคนจะไม่เกิดขึ้นตลอดชีวิต แต่จะเป็นชั่วระยะที่ดาวบาปเคราะห์..โคจรเข้ามาให้โทษเท่านั้น) |
ดาว ๒ ในภพที่ ๑๐ | โหรไทยโบราณจัดให้มีตำแหน่งเป็นจันทร์ “อมฤตโชค” ถือว่า..ให้คุณแก่เจ้าชะตาสามารถคุ้มภัยจากบาปเคราะห์ที่ ” โคจร “เข้ามาทับลัคน์และจันทร์ได้ครึ่งหนึ่ง |
ดาว ๒ ในภพที่ ๑๐ | บันดาลให้เป็นคนมีการศึกษาสูง และเป็นนักวิชาการ จะเป็นคนที่มีความเฉียบแหลม จะกระทำแต่กรรมดี มีชื่อเสียงและมีจิตใจที่เมตตา |
ถ้าเจ้าเรือนที่ ๑๐ สถิตในตำแหน่งที่ดี | จะเป็นคนมีคุณธรรมสูง |
ถ้าดาว ๒ มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับบาปเคราะห์ หรือกุมกับบาปเคราะห์ | จะมีความสัมพันธ์ลับกับแม่ม่ายเมื่ออายุ ๒๗ ปี จะทำให้เจ้าชะตาพบกับความข่มขืนจากเรื่องนี้ จะใช้ชีวิตไปในทางที่ต่ำทราม ชั่วร้าย และจะประสบปัญหาต่างๆในชีวิตทุกๆด้าน |
ตามปกติแล้วดาว ๒ เป็นศุภเคราะห์ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือดวงชะตาทุกดวงในทุกรูปแบบอยู่แล้ว ปัญหาที่ดาว ๒ ไม่ให้คุณ คือ ประการแรก ก็เพราะความสัมพันธ์กับบาปเคราะห์ บาปเคราะห์ที่น่ากลัวที่สุด คือ ดาว ๗ , ๘ ดาว ๓ ก็น่ากลัวเหมียนกัน ประการที่สอง ตัวดาว ๒ เองสถิตในตำแหน่งเสื่อม ประการสุดท้าย ได้แก่ จันทร์ดับ หรือสถิตอยู่ห่างจากดาว ๑ไม่เกิน ๘º ทั้ง ๓ ประการนี้ จะทำให้ดาว ๒ ในภพที่ ๑๐ ให้ผลร้ายแก่ดวงชะตาไม่ว่าจะในความหมายใดๆ | |
ถ้าดาว ๒ ไม่อยู่ในตำแหน่งที่เสียประการใดประการหนึ่งใน ๓ ประการนี้ | ให้ทายไปได้ทุกความหมายของภพที่ ๑๐ ในด้านดี โดยไม่ต้องกลัวผิดพลาดใดๆทั้งสิ้น ขอบอก |
โปรดอย่าลืมว่า…ดาว ๒ ในภพที่ ๑๐ ทำมุม ๑๒๐º ตรีโกณกับภพที่ ๒ และภพที่ ๖ |
ดาว ๒ สถิตภพลาภะ | |
ดาว ๒ ในภพนี้ เรียกว่า..”ลาภะโชค” | โหรทุกคนสามารถอ่านความหมายของดาว ๒ ในภพนี้ได้อย่างถูกต้อง ถ้าหากดาว ๒ สถิตในราศีที่ดี และเข้าหลักเกณฑ์ถูกต้องตามคาถา จะให้คุณหนุนดวงชะตา เจ้าชะตาจะเป็นคนมีการศึกษาสูง ประสบความสำเร็จในการศึกษาอย่างดียิ่ง จะมีบุตรหลายคน และชอบให้ความช่วยเหลือผู้อื่น เมื่ออายุ ๕๐ ปีขึ้นไปแล้วจะมีลูกเต้าหลายคน จะเป็นคนที่มีคุณสมบัติควรได้รับการยกย่องสรรเสริญทุกประการ |
ถ้าหากเจ้าเรือนภพที่ ๑๑ ไม่มีความเข้มแข็ง | จะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ปิดบ/ชไม่ลง |
ถ้าเจ้าเรือนภพที่ ๑๑ เข้มแข็ง หรือสถิตในราศีที่ดี | จะมีทางหาเงินหาทองและลาภผลรายได้หลายทาง จะแสวงหาเงินทองและหาความร่ำรวยได้โดยไม่ต้องใช้ความมานะพยายามมาก ( ถ้าหากดาว ๒ มีความสัมพันธ์ดีกับดาว ๖ จะมีรถยนต์ยี่ห้อดีเป็นของตนเอง จะมีที่ดินเป็นของตนเอง จะมีโชคลาภและคุ้มครองผู้อื่นได้) |
เนื่องจากภพที่ ๑๑ เป็นภพที่เกี่ยวข้องกับลาภผลและทางได้ของเจ้าชะตา | ดาว ๒ จัดว่า…เป็นศุภเคราะห์ที่มีแต่ให้ความสุขความเจริญ ด้านดี ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง ชื่อเสียงเกียรติยศ |
ดาว ๒ สถิตภพวินาศ | |
ภพนี้มีความหมายหลายอย่าง ไม่ใช่มีความหมายเฉพาะแต่ความสูญเสียหรือการสิ้นสุด | |
โบราณกล่าวไว้ว่า …………………. | เจ้าชะตาเหมาะกับการใช้ชีวิตอย่างสันโดษ อยู่ห่างไกลจากชุมนุมชน เพราะจะทำให้จิตใจปลอดโปร่งบริสุทธ์ มีกิเลสน้อย และมักเกี่ยวเนื่องกับอำนาจลึกลับ มีบุคลิกที่คนอื่นเห็นว่าเป็นปมด้อย จึงต้องไม่ทำตัวเขื่องหรือเป็นจุดเด่นจนเกินไป เจ้าชะตามักจะถูกกดขี่จากพรรคพวกเสมอ คนที่มีดาว ๒ อยู่ในภพ ๑๒ ต้องพยายามใช้ชีวิตอยู่ในศีลธรรมให้มาก เพราะเป็นชะตาที่มีทางติดคุกติดตะรางได้ |
ท่านว่า | จะไม่มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ จะเป็นคนใช้จ่ายสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เป็นคนเจ้าโทสะ การเงินที่ได้มามักจะเป็นเงินที่ไม่บริสุทธ์ เช่น ได้มาจากการพนัน แข่งม้า ขายผู้หญิง จะได้รับความทรมานจากโรคจากการติดต่อกับผู้หญิง เช่น กามโรค จะไม่มีข้าวในยุ้งฉาง |
แต่ถ้าดาว ๒ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับศุภเคราะห์ | เจ้าชะตาจะมีการศึกษาดี มีจิตใจเมตตากรุณา จะมีมิตรสหายที่ดี และเมื่อตายไปแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ |
แต่ถ้าดาว ๒ มีความสัมพันธ์ร้ายกับบาปเคราะห์ | ตายไปจะตกนรก |
ถึงแม้ว่า..ดาว ๒ ในภพนี้จะเป็นภพวินาศ | ปกติแล้ว โหรมักจะทำนายเกี่ยวกับโยคเกณฑ์และความสัมพันธ์ดีร้ายกับศุภเคราะห์และบาปเคราะห์ แตโหรจะต้องไม่ลืมว่า…ใน ๓๐º ของภพนี้ ยังมีนวางค์ที่มีดาวดีดาวร้ายเป็นเจ้านวางค์อยู่ถึง ๙ นวางค์ มีฤกษ์ที่ดีและร้ายสลับกัน ถ้าดาว ๒ สถิตอยู่ในนวางค์,ตรียางค์และฤกษ์ที่ดีแล้ว ดาว ๒ในภพนี้เข้มแข็งพอที่จะไม่ทำลายเจ้าชะตาเสมอไป |
ในปีหนึ่งๆจะมีศุภเคราะห์โคจรผ่านเข้าไปเสมอ แม้แต่ดาว ๕ ในยามที่ศุภเคราะห์โคจรเข้าไปทับ จะไม่ทำให้ความหมายของภพ ๑๒ เป็นอันตรายต่อเจ้าชะตามากนัก | |
EX. ภพที่ ๑๒ | หมายถึง กำหนดเวลาชำระหนี้ ซึ่งเจ้าชะตาจะมีเงินหรือไม่นั้น ดาว ๒ จะบอกได้ชัดแจ้ง ถ้าหากดาว ๒ ได้รับโยคเกณฑ์ที่ดีจากศุภเคราะห์ ก็ตอบไปได้เลยว่า…เจ้าชะตามีเงินใช้หนี้ หรือถ้าไม่มีก็สามารถหาได้ แต่จะมีปัญหาหรืออุปสรรคก็ต่อเมื่อดาว ๒ มีบาปเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่งเกิดไปมีโยคเกณฑ์เข้าเท่านั้น |
แต่อย่างไรก็ตาม | ไม่ว่าดาวดีหรือดาวร้าย ก็จะโคจรหมุนเวียนกันไปเรื่อยตามวัฐจักร เพราะฉะนั้นการจะไปตีตราว่า…ดาว ๒ จะให้ผลทางด้านร้ายแต่เพียงอย่างเดียว ก็ต้องระมัดระวังให้มาก คงต้องหาดวงที่มีดาว ๒ ในภพ ๑๒ มาศึกษาให้ถึงแก่นแท้ของแห่งสัจจะเทวา! |